วันพุธที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2559

ตัวละครลาโรง หรือจะ ลงโลง




สุภาษิตจีนว่า "งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิก"  ไม่ว่าจะรักกันขนาดไหน ก็ต้องลาจากกันไป

แต่ถ้าเป็นละครการแสดง  ก็ต้องมาถึงจุดจบของเรื่องราว ตัวละครก็จะค่อยๆ ลาโรง ไป ฝากไว้แต่ความรู้สึก ดีเลว ชอบไม่ชอบ ทิ้งไว้ในใจคนดูกัน

ละครสยามตอนนี้ มีตัวละครหลายตัวเริ่ม ลาโรง  จะไปลงโลง หรือไม่นั้น ยังไม่รู้เหมือนกัน


ศาลไคฟงก่อนหน้าที่ท่าน "เปาบุ้นจิ้น" จะมาทำงาน ศาลนี้จะเป็นใครเป็นเจ้าของศาล ไม่มีใครทราบ แต่ที่แน่ๆ ก่อนหน้านั้น  ความวุ่นวายมันก็ออกมาจากศาลนี่แหละ 

ตัวละครแบ่งเป็นสองพวก   
พวกแรก เดินเฉี่ยวศาลไคฟงนี้ ก็ผิดแล้ว เดินก็ผิด นั่งก็ผิด นอนยิ่งผิด  ทำอะไรผิดหมด ไม่ผิด ก็ผิด ผิดน้อย ก็เป็นผิดมาก  เด็ก ผู้ใหญ่ ผิดหมด   

ผิดเพราะ อยู่ฝั่ง ผิด



อีกฝั่ง เรียกว่า ฝั่งถูก
ถูกหมด ยึดสถานที่ราชการ ถูก
ปิดถนน ถูก
ทำร้ายคนเล่น ข้อหา ขยับกรวยอสรพิษ   ถูก
รีดไถ เงินเป็นแสน  ถูก

มิใช่ถูกเพราะการกระทำ  แต่ถูก เพราะอยู่ฝั่งถูก

หัวหน้าศาลไคฟง คนก่อนท่านเปา  ก็ตัดสินไปตามใบสั่งนี้  

เดินเข้ามา ถ้าโพกผ้าเหลืองมา เป็นสัญลักษณ์   ถูกเลย
เดินเข้ามา ถ้าโพกผ้าแดงมา เป็นสัญลักษณ์   ผิดเลย




ละครโรงนี้ ก็เลยยุ่งเหยิง วุ่นวายไปทุกระบบ
ส่วนว่า ศาลไคฟง จะมีใครสั่งมา อันนี้ก็ไม่ทราบได้เหมือนกัน มีไหม มีหรือไม่มี หรือว่าทราบก็บอกไม่ได้ อะไรทำนองนี้แหละ

มาวันนี้ แม้ว่า พวกฝั่งผิด จะติดคุกติดตะราง หนีหัวซุกหัวซุน 
แม้ชื่อว่าผิด 
แต่ก็เงยหน้าไม่อายฟ้า 
ก้มหน้าไม่อายดิน 
เดินไปไหนมีแต่คนรัก ศรัทธา 
ในการกระทำเพื่อส่วนรวม



ส่วน ฝั่งถูก ถึงวันนี้ 21 กันยายน 2559   
นโยบายเริ่มเปลี่ยน  
ปรับมาใช้ เป็น "เสร็จนาฆ่าโคถึก  เสร็จศึกฆ่าขุนพล"  
แปลเป็นจีนว่า "นกสิ้นเกาทัณฑ์ซ่อน " 

ก็เลยเห็น ท่านเปาบุ้นจิ้น มาประจำศาล คำสั่งชุดก็ออกมา 
แป๊ะลิ้ม ที่เคยแอบกินตะกั่วหลวงไปสี่ร้อยเม็ด ปฏิเสธข้อกล่าวหาว่ามีคนเอามาให้เอง ข้อหาฟังไม่ขึ้น จึงสั่งให้จำคุกลืม ยาว นาน ก่อนเข้าคุก ก็ฝากถุงเท้าไปใส่ให้อุ่นด้วย

น้องลุงกำนัน เจ้าของที่ดินนับล้านไร่ เคยผงาดเหนือฟ้า เหนือดิน เพราะทำอะไร ก็ถูกเสมอ กินก๋วยเตี๋ยว ใส่น้ำส้ม บอกว่าหวาน ยังมีคนโชโยโห่ร้อง บอกตามๆ กันว่า น้ำส้มหวาน  ท่านเปาก็ส่งเข้าห้องขัง ไปจองจำสามปีข้อหาจับ นางสาวไปกินสามคน เรียกสั้นๆว่าคดี นส.สาม ก 

สื่อราหู สีดำสนิท กินแต่ของดำ  ดำมาทางใต้ดิน ถึงใต้โต๊ะ กลายมาเป็นควายธนู ทุยนิวส์ ก็จอมืดดำ เจ๊งไปตามระบบ เพราะน้ำท่วมบ่อย ของดำเลยติดโคลนมาไม่ได้

แม้ ตัวประหลาดอ้อน้อย ที่เคยชี้นกเป็นไม้ ชี้ควายเป็นกระบือ เลื่องลือไปทั่วทั้งยึดศูนย์ราชการ ปิดถนน ตั้งศาลเจ้าพ่อกรวยมันกลางถนน ใครเดินผ่าน ไม่สักการะ มีอันเป็นไปทันที ตอนนั้นเดินไปทางไหน ลิ่วล้อก็ แวดล้อมสรรเสริญ เห่าร้องตะโกน ด้วยความชื่นชม เลียกันสุดๆ

ณ ตอนนี้ แค่เพียงเดินผ่านหน้าบ้าน ห้างร้านใคร ก็ต้องเอาน้ำสบู่ล้างตาม เพื่อปัดเสนียดจัญไรที่ติดตามพื้น 

ยังออกมา พูดด้วยหน้าตาชวนเบิร์ดกระโหลกว่า 

" ทุกอย่างก็เป็นไปตามกรรม  ทักกี้  แป๊ะลิ้ม  หรือแม้แต่ตัวอั้วเอง" 

ไม่รู้ว่า ปลงสังเวช หรือว่า เห็นคำสั่งเช็คบิล เลยออกมาทำเป็นขงเบ้งดูดาว ประกาศลงโลง 

ก็ยังมีตัวละคร อีกสองสามตัว 

ไพเบี้ย  ที่มีคดีกบฏปักหลัง 
หายทั้งตัว และหัว ไปสักพัก  
ชักอยู่ไม่ติด 
เพราะรับงานมาแล้ว งานไม่คืบหน้า 
วันนี้ถึงกับกล้าออกจากแหล่งกบดาน 
มาท้าตีท้าต่อยหลวงพ่อใหญ่ 
ไม่กลัวตำรวจลับจะมาจับหรือไร

หรือไม่อยากเป็นเป้าล่ออยู่กลางถนน อยากให้ตำรวจจับใจจะขาด  แต่เตือนไว้หน่อย ตำรวจกะลาแลนด์จับได้ 
จจะขาดอากาศ จริงๆเลยล่ะ 
อาจจะได้เห็น ตายเพราะเทปใส แปะรอบคอ แปะไว้ที่ข้างฝา 

มีก็แต่ มะนาว ที่ระวังตัว แม้จะติดความเนรคุณ อยู่ในสันดาน 
แต่ก็เก่งกล้า ไม่ไปเหยียบกับระเบิดทำให้มีคดีความใด  
แต่ได้ข่าวแว่วๆ เหมือนกันว่า 
ไปรับอะไรมาจากต่างความเชื่อ 
มาทำร้ายอดีตอาจารย์ตนเอง  
ฝั่งที่เค้าทำความวุ่นวายเดินเท้าไปรอบอีสาน ขณะนี้  
เค้าก็ตามทวงหนี้เหมือนกัน 
ไม่ทราบจริงเท็จ  
ถ้าจริงก็คง ต้องรีบลาโรง โดยด่วน 
เดี๋ยวโรงจะโดนระเบิดมิใช่น้อยไปด้วย  
จะพากัน เข้าโลงกันหมดคณะ

แถมตัวละครประกอบฝ่าย "ไหน" ยอดเยี่ยมยกพวกออกมา อีก  
เล่นของสูง เหมือนกับจะตั้งราชวงค์กันเลยทีเดียว  
ทั้งออกงาน แห่แหน  ยกย่อง เทียบชั้นดิวิชั่นหนึ่ง 
อันนี้ ก็ตัวใครตัวมัน 
แม้เป็นแค่ตัวประกอบ แต่ก็โดนประกบไปเรียบร้อย

อย่าว่าแต่ ตัวละครใหม่ๆ เลย
แม้ตัวละครเก่าเก๋าเกมส์ อย่างสตรีผู้ถือหอกทั้งหลาย ของเจ้าคุณเบอร์ลิน ตอนนี้ก็ได้ข่าวว่า อยากจะลาโรงเต็มแก่ ติดที่ไม่มีระบบยื่นใบลา กลับมาตัดผมรองทรง ฝึกทหารลดอายุไปหกสิบปี อย่างกะสาวยี่สิบห้า ก็ระวังดีๆนะ ซ้าย ขวา หมุนไปมาจะหันหน้าไปปรโลกก่อน



ตอนนี้ ฝุ่นยังตลบอบอวล  ก็คอยดูกันแล้วกันว่า ใครจะ ลาโรง ลงโลง หรือ ขึ้นรา กันก่อนกัน...

ผู้เขียน แค่สังเกตการณ์  จากภูแสนไกล ที่ได้แต่ดูตัวจัญไรไล่กัดคนดี

หายใจลึกๆ เข้าไว้ แล้วกัน

ละครโรงนี้ คงยังต้องมีต่อไป เพราะยังเหลืออีกหลายตัว
วิ. 21 กย 59

วันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2559

"มหาโนเนม พ่อทุกสถาบัน"


กลับมาทบทวน ตัวเราเองว่า เรากำลัง
งมงาย
งมน้ำ
งมโข่ง
หรือไม่..​  ?

ความศรัทธา ต่อพระพุทธศาสนา
ต่อพระพุทธเจ้า
ต่อพระธรรมคำสั่งสอน

ต่อวัดพระธรรมกาย
ต่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อ
ต่อพระสงฆ์

ยังดีอยู่ไหม..?

เคยอ่านในพระไตรปิฎก
เรื่องเหาะเหินเดินอากาศ  เรื่องฤทธิ์  อภิญญา
เรื่องนรก สวรรค์
มากมายเกินกว่าที่จะบอกว่า บังเอิญ เปรียบเทียบ

บทที่พระพุทธเจ้า ตรัสสอนบ่อยที่สุด ก็เป็นบทที่ว่าด้วย
อนุปุพพิกถา  ทาน  ศีล สวรรค์ โทษของกาม อานิสงส์การออกบวช

ตัวเราก็เชื่อมาตลอดว่า
ตายไปแล้วไม่สูญ ยังต้องเวียนว่ายตายเกิด ยังไม่สูญสลาย
ตายไป เอาบุญ เอาบาป ติดไป
เกิดใหม่แม้จำไม่ได้ ก็ยังมีกรรมเก่าติดไปส่งผล



เราก็เชื่อว่าตัวเรานี้ มีกาย กับ ใจ  
ใจ กับ กาย
เมื่อกายนี้ ทิ้งไว้ในโลก แล้ว
ใจก็ล่องลอยไปเกิด เอากรรมดี กรรมชั่วติดไป

เชื่อว่าการสร้างบารมีคือการสั่งสมกรรมดี
สั่งสมบุญกุศล
ข้ามภพ ข้ามชาติ
จนบารมีทั้งสามสิบทัศเต็มเปี่ยม

ระหว่างนั้น การตั้งความปรารถนาจะเป็นอะไรก็ตั้งกันไว้ในใจ
มีความอยากเป็นพระพุทธเจ้า ก็เรียกว่าเป็นพระโพธิสัตว์
อยากเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า
อยากเป็นเพียง อสีติมหาสาวก
อยากเป็นพระอรหันต์สาวก

แล้วก็สั่งสมบ่มบารมีไปเป็นสิ่งที่ตั้งใจไว้


ก็เชื่ออย่างนี้มาตลอด
ส่วนว่าจะเรียกตัวเราว่า เถรวาท มหานิกาย ธรรมยุติ มหายาน
เราจะเชื่อแบบไหน มันจะเกี่ยวกับการเรียกขานไหม

จะเรียกว่า เถรวาท หรือ มหายาน
จะเรียกว่า มหานิกาย หรือ ธรรมยุติ

มันก็แล้วแต่ เราจะไปบวช เราจะไปเข้าวัดที่ไหน
วัดที่สังกัดอยู่กับส่วนกลาง สังกัดอยู่กับใคร

อยู่ๆ เอาเรื่องความเชื่อ กับเรื่องสังกัด มาทำให้เป็นเรื่องเดียวกัน
เป็นเรื่องที่ให้คน ปวดหัว
เพื่อจะได้เอามาทำลายทำร้ายกัน




เหมือนการเป็นนักเรียนอาชีวะ แค่ใส่หัวเข็มขัดคนละสถาบัน
ก็จะยุให้ตีกัน
ทะเลาะกัน แบบไร้เหตุผล

จบออกมา ก็ต้องไปทำงานด้วยกัน สร้างบ้านสร้างโรงงาน
มันใช้ช่างเดียว ทำไม่ได้ มันต้องรวมเอาทุกช่างไปทำ

แล้วจะทะเลาะกันทำไม

ชาวพุทธยิ่งกว่านั้น เจอกันตลอดสังสารวัฏ อีกยาวนาน
จะทะเลาะกันเพื่อ ?

เห็นพระภิกษุครองผ้ากาสาวพัสตร์  จบปธ ๙  ออกมายกตนข่มท่าน
เขียนหนังสือเพื่อเป้าหมายชำระพระศาสนาให้สะอาด

แต่แค่แย้มๆ ออกมา ก็ว่าร้าย ใส่สี ตีไข่
การมาของข้อมูล ก็แค่ได้ยินได้ฟัง

หยุด ม้าที่ริมผา เถอะ จะสร้างกรรม ก่อเวรกันไปเพื่อ..?

ต่างคนก็ต่างสั่งสมบ่มบารมีไป
การทำลายล้าง หักหาญว่าร้าย ไม่ใช่การสร้างบารมี

การยกเรื่องที่อยู่ไกลสุดขอบจักรวาล มานั่งทะเลาะกันว่ามันเป็นอะไร ที่ๆ เราจะไปกัน

มันเป็นแค่ที่ว่างเปล่า ต้องว่างเปล่าเท่านั้น ถึงจะถึง
หรือ ว่างเฉพาะกิเลส จากใจ แล้วใจเราก็ไปถึง
เหลือใจที่สะอาดสุดๆ

เหลือ ไม่ เหลือ  ช่างมันประไร

ขอให้ไปถึงเถอะ

เหมือนมานั่งเถียงกันว่า มนุษย์ต่างดาวหน้าตาอย่างไง ชอบกินอะไร
เอาไว้เจอตัวแล้วจะมาบอกละกัน



อย่างไร เราก็ต้องร่วมมือกันสร้างสังคมนี้ให้มีความสะอาดบริสุทธิ์ไปด้วยกัน
อย่าทำตัวอย่างเด็กต่างสถานบัน มาตีกันเป็นเด็กๆ อยู่

มาช่วยกันเถอะท่าน

ไม่อยากไปนั่งลบสีที่ พ่นไว้ตามกำแพงว่า
"มหาโนเนม พ่อทุกสถาบัน"


วิ. 19 กย 59

วันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2559

จดหมายปิดผนึก ถึงมหาโนเนม..




พุทธศาสนาในประเทศไทย มาถึงคำว่า ใครเป็นเถรวาท กันแล้ว

เพราะว่า รัฐธรรนูญ อยู่ๆ ก็กำหนดว่า จะสนับสนุนพุทธเฉพาะสายเถรวาท

ซึ่งทำให้ เกิดกระแสจากนิกาย และ ศาสนิกในศาสนาอื่นๆ เริ่มต้นแสดงพลังไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ เห็นได้ชัดที่ สามจังหวัดภาคใต้ ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญทั้งจังหวัด 

ส่งผลให้ นายกต้องใช้ ม.44 กำหนดข้อความเพิ่มเข้าไปว่า ยังดูแล ศาสนาอื่นๆ เหมือนเดิม เรื่องราวจึงสงบ



แต่เมื่อคลื่นลมก่อตัวแล้ว ก็ชัดเจนขึ้น ว่าเรื่องนี้ตั้งแต่สร้างชาติมา ไม่เห็นต้องมีกำหนดกฏเกณฑ์ ว่าใครเป็นเถรวาท เพราะ คณะสงฆ์ไทย ไม่ว่าจะเป็นนิกายไหน มหานิกาย หรือ ธรรมยุติ ก็เป็นเถรวาททั้งหมด

บวชแบบไหน ออกมาก็เป็นเถรวาททั้งสิ้น  

แล้วอย่างไง 

วันนี้ก็ชัดเจนขึ้นมาอีกระดับว่า  อ๋อ ก็เพราะต้องการที่จะประเคนข้อหา ไม่ใช่เถรวาท มาให้วัดใหญ่แถวปทุม จะได้จัดการต่อไปถึง วัดแถวภาษีเจริญ พร้อมกันไปได้

ดั่งอยู่ๆ ก็มี พระมหาโนเนม จากวัดไม่เคยแพ้พ่าย  ก็ออกมาตบตี เผาพระสงฆ์พวกเดียวกันเอง ในเวลาที่ต้องการความสามัคคี เพื่อสู้กับระบบ และ ความวุ่นวายที่เดินเท้าไปทั่วหลายๆ ภาคของประเทศ

หรือว่า รับงานมา
หรือว่า รู้หนึ่งไม่ถึงสิบ
หรือว่า  เห็นกงจักรเป็นดอกบัว

เสียดาย ความรู้ความสามารถ เป็นถึง นาคหลวง แต่ลุกขึ้นมาทำเรื่องไม่เข้าเรื่อง ในช่วงเวลาที่ไม่เข้าท่า  

ถามว่า การเขียนเรื่องงี่เง่าของท่านนั้น มันจะทำให้เกิดอะไรดีกับพุทธศาสนาในประเทศนี้บ้าง

การโจมตี วัดปากน้ำ วัดพระธรรมกาย ด้วยข้อความเลิศหรู ปลุกกระแสปลาตายน้ำตื้น ในเวลาที่เกิดความระส่ำระสาย ไปทั้งวงการพุทธ 

หรือ ว่าท่านมืดบอดขนาดมองไม่เห็นสถานการณ์ ที่เกิดขณะนี้ 

ถามจริง... โง่หรือบ้า

หรือว่า เห็นว่า วัดพระธรรมกายกำลังเพลี่ยงพล้ำ กำลังมีปัญหากับภาครัฐ เลยต้องออกมากระทืบซ้ำ ทำหน้าที่ให้สมชายชาตรี ลูกวัดไม่เคยแพ้ 

ก็ไม่ได้อยากออกมาก่อกวนให้น้ำขุ่นมากขึ้น แต่ อยากออกมาเตือนสติท่านสักนิด ว่า




ความรู้ที่ท่านมี ท่านควรเอาไปใช้พัฒนาจิตใจของท่าน ปรับปรุงให้ดี ถ้าทำได้ดี จะได้เป็นผู้นำในการธำรงพระศาสนาต่อไป

อย่าใช้วิธี เหยียบซากศพเพื่อทำให้ตัวเองเด่นขึ้นไป

ข้อเขียนของท่าน นั้น เดี๋ยวก็คงมี ฝ่ายวิชาการ ออกมาแก้ข้อความไปทีละข้อ ทีละวรรค เพื่อปรับสัมมาทิฐิให้ท่าน กลับเข้าลู่เข้าทาง

แต่เห็นท่านอุตสาห์ตั้งใจเรียนจนจบ ไม่อยากจะให้เสียพระ เสียดายบุคลากร ของพระศาสนา 

การด่าว่ากล่าว กันเอง ไม่ทำให้อะไรมันดีขึ้น แต่มีแต่จะแย่หนักไป



ถ้าสงสัย อะไร ก็เข้าไปพูดคุยกับทางวัดเค้าเลย บอกเค้าเลยว่า เค้าทำอะไรที่ทำให้ท่านคิดแบบนั้น ไม่ต้องให้เค้ามาอธิบายผ่านสื่อสารมวลชน  

ถ้าหวังดีกับพระศาสนา ก็ไปคุยกัน 
ถ้าจะทำให้ ฉิบหายไปกว่าเดิม  ด้วยวิธีที่ท่านคิดว่าดี ก็ขอให้ละเลิกเสียเถอะ 

วิธีที่กำลังทำอยู่นี้ มันเป็นการทำลายพระศาสนา  มากกว่าที่พวกที่เปิดหน้ามาเป็นศัตรูของพุทธทำ

หยุดเถอะมหา..

วิ. 15 กันยา 59

เขียนเรื่องนี้หลังจากอ่าน บทไม่ได้ความ ของพระมหาโนเนมนี้
กดดู  O

สดๆร้อนๆ  อ.สมภาร พรหมทา บรรยายเชิงปรัชญา เรื่องนิพพาน เป็นอัตตา อนัตตา ใครจะเพิ่มความรู้ ก็ลองฟังดูนะ ดีมากๆ  ควรฟัง



20160909 อนัตตา กรรม นิพพาน (สมภาร พรมทา)
https://youtu.be/TA9qWiagMBI

20160912 อนัตตา กรรม นิพพาน (ตอนที่สอง)
https://youtu.be/D0VjdlSLd1g